วันพืชมงคล ไม่ใช่แค่วันหยุดราชการวันหนึ่ง แต่มีความหมายลึกซึ้งต่อวิถีชีวิตและจิตใจของคนไทยส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกร และยังสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ
พระราชพิธีนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ:
- พระราชพิธีพืชมงคล: เป็นพิธีสงฆ์ จัดขึ้นในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในวันแรก (ซึ่งปกติคือวันพฤหัสบดี) เพื่อทำขวัญเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ เช่น ข้าวเปลือก เพื่อให้มีความอุดมสมบูรณ์และปราศจากศัตรูพืช
- พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ: เป็นพิธีพราหมณ์ จัดขึ้นในวันรุ่งขึ้น (ปกติคือวันศุกร์) ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พระยาแรกนา ผู้ทำหน้าที่เสมือนสมมติเทพ นำโดยพระโคเทียมแอกไถนา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นฤดูการเพาะปลูก โดยในพิธีจะมี การเสี่ยงทาย สำคัญสองอย่างคือ
- การเสี่ยงทายผ้าเสี่ยงทาย: พระยาแรกนาจะหยิบผ้าสำหรับนุ่ง 3 ผืน หากหยิบได้ผืนสั้น/ยาวต่างกัน ก็จะทำนายปริมาณน้ำฝนในปีนั้น
- การเสี่ยงทายจากสิ่งที่พระโคกิน: จะมีการนำอาหารและเครื่องดื่ม 7 ชนิด มาวางให้พระโคเลือกกิน ได้แก่ ข้าวเปลือก ถั่ว งา เหล้า น้ำ หญ้า และข้าวโพด สิ่งที่พระโคเลือกกินจะถูกนำมาทำนายสภาพดินฟ้าอากาศ ผลผลิต หรือเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในปีนั้นๆ
หลังเสร็จสิ้นพิธี เกษตรกรและประชาชนที่มาร่วมงานจำนวนมาก จะรีบเข้าไปเก็บ เมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน ที่พระยาแรกนาหว่านไว้ เชื่อว่าเป็นเมล็ดพันธุ์มงคลที่จะนำไปปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคลและให้ผลผลิตดี
วันพืชมงคล ปี 2568:
สำหรับในปี พ.ศ. 2568 นี้ พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จะจัดขึ้นใน วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2568 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ความสำคัญในปัจจุบัน:
แม้กาลเวลาจะผ่านไป เทคโนโลยีการเกษตรจะก้าวหน้าขึ้นเพียงใด แต่พระราชพิธีพืชมงคลยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นเครื่องเตือนใจให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นรากฐานของการดำรงชีวิต และยังเป็นการแสดงถึงขวัญกำลังใจที่พระมหากษัตริย์ทรงมีต่อพสกนิกรผู้ประกอบอาชีพทำนาทำไร่ ให้มีพลังใจในการทำงานเพื่อความมั่นคงทางอาหารของชาติ
อ้างอิง
- สำนักพระราชวัง
- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- สำนักนายกรัฐมนตรี