วันวิสาขบูชา ซึ่งในปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม (และเป็นวันหยุดชดเชยในวันจันทร์ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘) ถือเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เนื่องจากเป็นวันที่ระลึกถึงสามเหตุการณ์มหัศจรรย์ที่เกี่ยวข้องกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งบังเกิดขึ้นในวันเพ็ญ เดือน ๖ (เดือนวิสาขะ) อย่างน่าอัศจรรย์ แม้จะต่างปีกันก็ตาม เหตุการณ์ทั้งสามนั้นคือ การประสูติ การตรัสรู้ และการเสด็จดับขันธปรินิพพาน

ด้วยความสำคัญนี้ องค์การสหประชาชาติจึงได้ประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็น “วันสำคัญสากลของโลก” (International Day of Vesak) เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ตลอดจนน้อมนำหลักธรรมคำสอนมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ความสำคัญของสามเหตุการณ์ในวันวิสาขบูชา

  1. การประสูติ: เจ้าชายสิทธัตถะ โอรสแห่งพระเจ้าสุทโธทนะและพระนางสิริมหามายา แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ได้ประสูติ ณ ลุมพินีวัน ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศเนปาล เหตุการณ์นี้ถือเป็นการเริ่มต้นแห่งการอุบัติขึ้นของพระพุทธศาสนา
  2. การตรัสรู้: หลังจากทรงออกผนวชและบำเพ็ญเพียรเป็นระยะเวลา ๖ ปี เจ้าชายสิทธัตถะได้ทรงตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม (ปัจจุบันคือ พุทธคยา ประเทศอินเดีย) การตรัสรู้ของพระองค์คือการค้นพบอริยสัจ ๔ หรือความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ อันเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา
  3. การปรินิพพาน: เมื่อพระพุทธองค์ทรงมีพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา หลังจากทรงเผยแผ่พระธรรมคำสอนเป็นเวลานานถึง ๔๕ ปี ได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันคือ เมืองกุศินาคาร์ ประเทศอินเดีย) ถือเป็นการสิ้นสุดแห่งพระชนม์ชีพในโลกนี้ แต่พระธรรมวินัยที่ทรงแสดงไว้ยังคงอยู่เป็นประทีปนำทางชาวโลกสืบไป

ประวัติการประกอบพิธีวิสาขบูชาในประเทศไทย

การประกอบพิธีวิสาขบูชาในประเทศไทยมีหลักฐานปรากฏมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อย่างไรก็ตาม ได้มีการว่างเว้นไปในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้น จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) ทรงมีพระราชดำริให้ฟื้นฟูพิธีวิสาขบูชาขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. ๒๓๖๐ และได้ถือปฏิบัติสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

กิจกรรมที่พุทธศาสนิกชนพึงปฏิบัติในวันวิสาขบูชา

ในวันวิสาขบูชา พุทธศาสนิกชนมักจะร่วมกันประกอบกิจกรรมทางศาสนาเพื่อเป็นการบูชารำลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย และขัดเกลาจิตใจของตนเอง กิจกรรมที่นิยมปฏิบัติ ได้แก่:

  • การทำบุญตักบาตร: ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อเป็นการสั่งสมบุญกุศล
  • การฟังพระธรรมเทศนา: ไปวัดเพื่อฟังธรรม เรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
  • การรักษาศีล: สมาทานศีล ๕ หรือศีล ๘ เพื่อเป็นการสำรวมกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์
  • การเจริญสมาธิภาวนา: ปฏิบัติธรรม ทำสมาธิ เพื่อฝึกฝนจิตใจให้สงบและเกิดปัญญา
  • การเวียนเทียน: ในช่วงค่ำ พุทธศาสนิกชนจะร่วมกันเวียนเทียนรอบพระอุโบสถหรือพระเจดีย์ ๓ รอบ พร้อมสวดมนต์ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของวันวิสาขบูชา
  • การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์: ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เช่น การทำความสะอาดวัด การบริจาคทาน เป็นต้น

หลักธรรมสำคัญที่ควรน้อมนำมาปฏิบัติ

วันวิสาขบูชามิได้เป็นเพียงวันประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสอันดีที่พุทธศาสนิกชนจะได้น้อมนำหลักธรรมสำคัญของพระพุทธเจ้ามาพิจารณาและปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อริยสัจ ๔ ซึ่งเป็นธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ อันประกอบด้วย:

  1. ทุกข์: ความจริงว่าด้วยความทุกข์ สภาพที่ทนได้ยาก
  2. สมุทัย: ความจริงว่าด้วยเหตุให้เกิดทุกข์ คือ ตัณหา
  3. นิโรธ: ความจริงว่าด้วยความดับทุกข์ คือ การดับตัณหา
  4. มรรค: ความจริงว่าด้วยหนทางไปสู่ความดับทุกข์ คือ อริยมรรคมีองค์ ๘

การเข้าใจและปฏิบัติตามอริยสัจ ๔ จะนำไปสู่การดำเนินชีวิตอย่างมีสติ มีปัญญา และสามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ในที่สุด

ในปี ๒๕๖๘ นี้ รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงวัดทั่วประเทศ ได้มีการเตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันวิสาขบูชา ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมกิจกรรมบำเพ็ญกุศลตามศรัทธาและความสะดวก เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป

📚 แหล่งอ้างอิงข้อมูล

  1. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
    • เว็บไซต์: www.onab.go.th
    • หมวดวันสำคัญทางพุทธศาสนา
  2. ยูเนสโก (UNESCO) และ องค์การสหประชาชาติ (UN)
    • การรับรองวันวิสาขบูชาเป็นวันสากล
    • UN Vesak Day Resolution
  3. พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
  4. หนังสือ “พระพุทธเจ้า” โดย สุชีพ ปุญญานุภาพ
    • สำนักพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย