น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
วันที่ ๙ มิถุนายนของทุกปี เป็นวันสำคัญที่พสกนิกรชาวไทยร่วมกันน้อมรำลึกถึง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ ๘) ซึ่งเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๙ ณ พระที่นั่งบรมพิมาน พระบรมมหาราชวัง
พระราชประวัติพอสังเขป
พระองค์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๘ ณ เมืองไฮเดลแบร์ก ประเทศเยอรมนี ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระองค์ขึ้นครองราชย์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๘ ขณะมีพระชนมายุเพียง ๙ พรรษา และแม้จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่พระองค์ก็ทรงได้รับความเคารพรักอย่างลึกซึ้งจากประชาชน
วันอานันทมหิดลกับวงการแพทย์ไทย
หลังจากพระองค์เสด็จสวรรคต คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กำหนดให้วันที่ ๙ มิถุนายนของทุกปีเป็น “วันอานันทมหิดล” เพื่อรำลึกถึงพระเมตตาธิคุณที่ทรงมีต่อวงการแพทย์ไทย อันเป็นที่มาของ มูลนิธิอานันทมหิดล ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒ เพื่อมอบทุนการศึกษาแก่แพทย์ไทยที่มีความสามารถให้ไปศึกษาต่อในระดับสูง และกลับมาพัฒนาวงการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ
กิจกรรมในวันอานันทมหิดล
ในวันสำคัญนี้ หน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะในแวดวงการแพทย์ จะจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ
พิธีวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๘
กิจกรรมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระราชกุศล
การบริจาคโลหิตและบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนมูลนิธิอานันทมหิดล
การเผยแพร่ความรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชนทั่วไป
สาระและแรงบันดาลใจ
วันอานันทมหิดลไม่เพียงเป็นวันรำลึกถึงพระองค์ท่านเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของ “การให้เพื่อส่วนรวม” และการสืบสานปณิธานเพื่อพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านการแพทย์ การศึกษา และคุณภาพชีวิตของประชาชน
วันอานันทมหิดล เป็นวันแห่งความรำลึกและการให้เกียรติแด่พระผู้ทรงเป็นแรงบันดาลใจในวงการแพทย์ไทย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล มิได้เป็นเพียงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของประชาชนเท่านั้น แต่ยังทรงเป็นแบบอย่างของความเสียสละ ความเรียบง่าย และความมุ่งมั่นในการพัฒนาชาติผ่านการศึกษาและสาธารณสุข
ขอให้วันที่ 9 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันที่เราทุกคนร่วมกันน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และยึดถือปณิธานแห่ง “การให้เพื่อส่วนรวม” ไว้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนสืบไป
อ้างอิง
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำนักราชเลขาธิการ
